ขั้นตอนการวางแผนการจัดการระบบรายงาน จาก ERP

ทราบหรือไม่ว่า กระบวนการวางระบบซอฟต์แวร์ หรือที่เรียกติดปากกันว่า Implement มีรายละเอียดปลีกย่อยที่หลายคนมองข้ามไป บ่อยครั้งที่ผู้คัดเลือกซอฟต์แวร์จะมองแต่ฟังก์ชั่นการทำงานที่รองรับและสอดคล้องกับการทำงาน แต่เผลอมองข้ามไปว่า OUTPUT หรือ รายงานที่จะได้จากการใช้ระบบซอฟต์แวร์นั้น จะสามารถตอบโจทย์ในการนำไปซึ่งการวิเคราะห์ได้อย่างแท้จริงหรือไม่  อย่างไรก็ตาม ขั้นตอนในการที่จะแนะนำอย่างคร่าวๆ เพื่อนำไปเป็นข้อประกอบในการพิจารณาวางแผน Implement (กรณีที่คัดเลือกซอฟต์แวร์ผ่านแล้ว) มีง่ายๆ ดังนี้

Location vs Inventory Management

ปกติในระบบ ERP จะมีระบบ inventory ให้อยู่แล้วแต่ ระบบ location มักจะเป็นระบบเสริมเนื่องจากใช้งานยุ่งยาก เพราะมีรายละเอียดในการใช้งานมากกว่า เช่น เมื่อมีการซื้อสินค้าเข้ามา ระบบจะทราบว่าสินค้าได้ทำการรับเข้าคลังมาแล้วจำนวนเท่าไร มีกี่รายการ ซึ่งเมื่อรับเสร็จแล้วพนักงานคลังสินค้าก็จะเอาสินค้าไปจัดเก็บ คำถามคือ พนักงานจะรู้ได้อย่างไรว่า จะนำไปวางไว้ที่ไหน ซึ่งตอนนี้ระบบ location

Project Management ในระบบงาน ERP

ระบบบริหารโครงการ รองรับการวางแผน การจัดการงบประมาณ รวมทั้งค่าใช้จ่ายสำหรับงานโครงการ เช่น งานก่อสร้างหรือบำรุงรักษา ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว หากเป็นระบบบริหารงานโครงการแบบเต็มฟังก์ชั่น จะมีส่วนของการจัดทำ Work Breakdown การกำหนดเป้าหมายของแต่ละ Task ได้อย่างละเอียด สามารถระบุ เช่น วันเริ่มต้นและสิ้นสุด ผู้รับผิดชอบ เพื่อนำไปใช้ในการติดตามงานและกำหนดความสำเร็จของงานในแต่ละ Task ให้ค่าเป็น% ซึ่งหากใช้งานเต็มฟังก์ชั่นตามที่อธิบายข้างต้น ก็จะช่วยให้การทำงานมีการจัดเก็บเข้าระบบอย่างละเอียด และเป็นระเบียบแบบแผนมากยิ่งขึ้น และยิ่งดีมากในการนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์ต่อไปในด้านบริหาร เช่น ทำรายงาน Graph หรือ Gantt Chart

การวางโครงสร้างรหัสสินค้า (Serial Number) กับการใช้งาน Inventory Control System

สินค้าที่เกี่ยวกับ IT ซึ่งมีอุปกรณ์ต่างๆ เยอะมาก และโดยทั่วไปมักจะอ้างอิงกับ Serial Number ของอุปกรณ์แต่ละตัว การจัดการโครงสร้างสินค้าด้วยการแยกรหัสและมีการระบุ Serial Number  จะทำให้มีความถูกต้องแม่นยำมากขึ้น เรียกว่าเป็นด่านแรกและเป็นหัวใจของธุรกิจบางประเภท

Sale Forecast

ระบบ ERP ช่วยให้คุณวางแผนการขายสินค้าให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นได้โดยพยากรณ์ จากประวัติการขายที่ผ่าน เพื่อให้มีการวางแผนสินค้าคงคลังให้เพียงพอกับความต้องการของลูกค้า และลดเวลาในการส่งมอบสินค้าในน้อยลง การพยากรณ์ยอดขายจึงมีความจำเป็นสำหรับธุรกิจทุกที และต้องเลือกใช้วิธีวิเคราะห์ให้สอดคล้องกับสินค้าแต่ละแบบ

ทำไมจึงต้องต่อ MA

การทำ MA เปรียบเสมือนกับคนที่จำเป็นจะต้องทำประกันชีวิต ท่านจะเห็นความสำคัญของ MA ต่อเมื่อเกิดอุบัติ
เหตุในองค์กร การทำ MA ท่านจะได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆในการขอรับบริการ ให้คำแนะนำการใช้งานโปรแกรมตลอดภายในอายุสัญญาบริการ

Scroll Up